รวม 5 แบรนด์นาฬิกาสายเหล็ก ผสานความสวยเท่อย่างมีระดับ
จริงๆ แล้วสายนาฬิกาเรือนเหล็กทำมาจากเหล็กหรือเปล่า…คำตอบคือ คำว่านาฬิกาสายเหล็กนั้นคือคำที่ใช้เรียกนาฬิกาสายโลหะ ไม่ว่าจะเป็นสเตนเลสสตีล ไทเทเนียม หรือวัสดุอื่นๆ ที่ดูภายนอกแล้วส่วนใหญ่มักจะเป็นสีซิลเวอร์หรือสีเงิน ด้วยปัจจัยเหล่านี้นาฬิกาที่มีลักษณะดังกล่าวจึงถูกเรียกแบบรวมๆ ว่าเป็นนาฬิกาสายเหล็กนั่นเอง ซึ่งนาฬิกาดังกล่าวนั้นเหมาะกับผู้ที่ต้องการลุคที่ดูเป็นทางการและสุภาพ หรือในด้านของฟังก์ชั่นอาจชื่นชมในแง่ของความทนทานและคงทนแข็งแรง สำหรับสาวๆ ที่ชอบความเท่ ดูหนักแน่นและชอบสัมผัสถึงความมีน้ำหนักถ่วงๆ ที่ข้อมือ นาฬิกาสายเหล็กถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากีเดียว โดยจะมีแบรนด์ใดที่น่าสนใจบ้าง โว้กก็คัดสรรมาแนะนำกันที่นี่
ภาพ: Watchworldwide
1. ROLEX OYSTER PERPETUAL LADY-DATEJUST
คอลเล็กชั่นล่าสุดของ Oyster Perpetual Lady-Datejust นี้ยังคงถ่ายทอดรูปแบบโมเดิร์นคลาสสิกเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับสุภาพสตรีที่ทั้งมุ่งมั่น ทันสมัย และแสวงหาความเป็นเลิศอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยมีคอนเซปต์ของแบรนด์ที่รวบรวมเหล่าสุภาพสตรีที่ประสบความสำเร็จ ล้วนชื่นชอบที่จะสวมใส่ Lady-Datejust ไว้บนข้อมือทั้งสิ้น ตัวเรือนของ Lady-Datejust รุ่นใหม่นี้ยังคงเป็นแบบ ‘Oyster’ ที่คุ้นตากันดี มีให้เลือกทั้งที่ผลิตจาก ‘Oystersteel’ อันเป็นอัลลอยที่มีความทนทานสูง หรือแบบที่ผลิตจากทอง 18K ทองขาว 18K หรือทอง ‘Everose’ 18K รวมถึงเวอร์ชั่น ‘Rolesor’ ที่ผสมผสาน ‘Oystersteel’ เข้ากับทอง 18K สีใดสีหนึ่งใน 3 ประเภทดังกล่าว โดยจะถูกเชื่อมกับฝาหลังอย่างแน่นหนาด้วยเครื่องมือพิเศษที่มีเพียงช่างนาฬิกาของโรเล็กซ์เท่านั้นที่จะสามารถเปิดเข้าถึงกลไกภายในได้
ภาพ: GrandSeiko
2. GRAND SEIKO CALIBER 9S 25TH ANNIVERSARY LIMITED EDITION
เรือนเวลาสุดเรียบหรูจาก Grand Seiko โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีฟ้าแต่งผิวลายซันเรย์ สื่อถึงท้องฟ้าอันสดใส และกว้างไกลที่มองจากยอดเขาอิวาเตะสถานที่กำเนิดเรือนเวลาอันเลื่องชื่อ พื้นหน้าปัดมีชิ้นสัญลักษณ์ ‘GS’ เคลือบสีทอง ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และยังคงเป็นเรือนเวลาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมระดับไฮเอนด์อย่าง ‘Hi-beat 36000’ กลไกความถี่สูง ในคาลิเบอร์ 9S65 กลไกอัตโนมัติ บอกเวลา 3 เข็ม พร้อมวันที่ จำนวนทับทิม 35 เม็ด ความถี่การทำงาน 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 72 ชั่วโมง ด้านหลังตัวเรือนโชว์โรเตอร์ของกลไกเครื่องที่ใช้กับรุ่นนี้จะเป็นสีน้ำเงินเฉดประจำของ Grand Seiko ที่สร้างให้เกิดสีด้วยกระบวนการ ‘Anodic Oxidation’
ภาพ: Watchworldwide
3. IWC INGENIEUR AUTOMATIC 40
Ingenieur Automatic 40 เป็นนาฬิกาที่มีดีไซน์ตามแบบฉบับดั้งเดิมของ Ingenieur SL ในอดีต ถูกหยิบมาขัดเกลาให้สวยงามลงตัว ปรับลุคให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น มีรูปร่างตัวเรือนที่รับกับข้อมือมากยิ่งขึ้น มุมเหลี่ยมถูกเกลาให้มีความโค้งมนยิ่งขึ้นทั้งตัวเรือนและสาย และมีงานตกแต่งที่พิถีพิถันมากขึ้น ซิกเนเจอร์ของแบรนด์นั้นอยู่ที่ข้อสายโลหะทรงอักษร ‘H’ ขอบตัวเรือนทรงกลมยึดสกรู 5 ชิ้นยังคงชัดเจน และยังคงมีเกราะเหล็กอ่อนติดตั้งอยู่ภายในตัวเรือนเพื่อปกป้องกลไกจากสนามแม่เหล็กเหมือนเช่นต้นฉบับอันส่งผลให้รู้สึกว่าหรูหราขึ้นกว่าเดิม
ภาพ: Seiko Thailand
4. Seiko Prospex Sumo GMT
นาฬิกาสายเหล็กแบบโอเวอร์ไซซ์ที่สาวๆ คนไหนใส่ต้องเท่อย่างแน่นอน สำหรับ Seiko Prospex Sumo GMT เรือนนี้เป็นนาฬิกาดำน้ำที่มาพร้อมกลไก Solar Quartz GMT สำรองพลังงานจากพลังงานแสง ร่วมกับระบบแสดงเวลาได้ 2 ไทม์โซน หรือ GMT ผ่านเข็มบอกเวลาสีส้มสดใสตัดกับสีหน้าปัดอย่างชัดเจน มีให้เลือกทั้งหน้าปัดสีน้ำเงิน และสีเขียว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีของท้องทะเลซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ผูกพันกับชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน โดดเด่นและแมตช์กับวันลุยๆ ของสาวผู้รักกิจกรรมกลางแจ้งได้เป็นอย่างดี
ภาพ: Alba, Timekeepershop
5. Alba boyish Active Quartz
Alba boyish Active Quartz คือนาฬิกาสายเหล็กสำหรับสตรีราคาจับต้องได้ที่มาพร้อมกับลุคแสนหวานสไตล์เฟมินีน โดดเด่นด้วยหน้าปัดมุกสีฟ้าพาสเทล ใช้เทคนิคตัดขอบอินเด็กซ์บอกค่าเวลาด้วยสีดาร์กเยลโล่โกลด์เพื่อเพิ่มความละมุนให้กับหน้าปัด และเสริมความเท่สไตล์สปอร์ตเล็กๆ ด้วยขอบหน้าปัดสีดำ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวแบบไม่ขาดไม่เกิน ไม่หวานเกินไป แต่ก็ไม่ห้าวเกินความเป็นนาฬิกาสำหรับผู้หญิง แมตช์เข้ากับทุกลุค ทั้งวันทำงาน และวันสบายๆ นาฬิกาเป็นระบบควอตซ์ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของสุภาพสตรีที่ไม่นิยมความวุ่นวายของคาลิเบอร์ หรือระบบที่ซับซ้อนต่างๆ
ภาพ : Watchworldwide, GrandSeiko, Seiko
ข้อมูล www.vogue.co.th