คืนชีพแบรนด์ Juun J. กับชุดจั๊มพ์สูทคู่ของ Zendaya และ Timothée Chalamet ณ กรุงโซล
งานฉายปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง DUNE: PART TWO เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้คลุกคลีอยู่กับแค่วงการบันเทิง แต่นักแสดงนำทั้ง 2 คนยังสร้างโมเมนต์อันน่าจดจำให้โลกแฟชั่นยุคใหม่อีกด้วย เพราะทั้ง Zendaya และ Timothée Chalamet แต่สรรสร้างลุคอันโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นชุดเกราะสไตล์ ‘Gynoid’ สุดคลาสสิกจากแบรนด์ Mugler ที่เรียกเสียงฮือฮาไปทั้งโลกของเซนดาย่า ด้านทิโมธีก็ไม่น้อยหน้าเขาก็เคยหยิบจับชุดสูทระดับโอตกูตูร์มาเลเยอร์เข้ากับแผ่นปิดหน้าอกโลหะให้อารมณ์ความแข็งแกร่งสอดประสานกับกลิ่นอายของภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี เรียกว่าพวกเขาใช้เวทีงานฉายรอบปฐมทัศน์เป็นดั่งรันเวย์นำเสนอแฟชั่นที่ทุกคนต้องติดตาม
อ่านเรื่องราวชุดในงานฉายรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง DUNE: PART TWO ของเซนดาย่าและทิโมธี ได้ที่ vogue.co.th/celebrity/article/zendaya-mugler-robot-1995-look-for-premier-tour-dune2 และ vogue.co.th/fashion/inspirations/article/timothee-chalamet-givenchy-custom-haute-couture-dune-part-two ตามลำดับ
คิวการทัวร์เปิดฉายรอบปฐมทัศน์วนมาถึงกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เซนดาย่าและทิโมธีก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ทั้งคู่ปรากฏโฉมในลุคจั๊มพ์สูทแมตช์กัน โดยเซนดาย่าในสีเบจและทิโมธีมาในโทนสีเทา ผลงานชุดดังกล่าวเป็นของแบรนด์ Juun J. แบรนด์ระดับไอคอนแห่งวงการแฟชั่นเกาหลี ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อสักทศวรรษก่อนแบรนด์โด่งดังเป็นพลุแตกและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในระดับสากล ทว่าช่วงหลังชื่อเสียงของแบรนด์ค่อยๆ จางหายไปบ้างตามกงล้อแห่งความนิยมและเทรนด์ ทว่า Juug Wok-jun ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ยังคงนำเสนอผลงานอันน่าประทับใจอยู่เสมอ โมเมนต์สำคัญในงานฉายปฐมทัศน์ครั้งนี้จึงเหมือนชุบชีวิตให้ทุกคนหันมามองผลงานของแบรนด์อย่างตั้งอกตั้งใจอีกครั้ง
ชุดของนักแสดงนำทั้งคู่เป็นชุดจากคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2024 ที่นำเสนอไป ณ ปารีสแฟชั่นวีกเมื่อช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 ผลงานเซ็ตนี้ใช้การออกแบบด้วยรายละเอียดของเสื้อผ้าไบเกอร์ผสมผสานกับกลิ่นอายฟิวเจอริสติกแบบเรโทร ซึ่งเป็นแกนหลักสำคัญของงานศิลป์ในภาพยนตร์เรื่องนี้พอดิบพอดี นอกจากนี้จุนเจคอลเล็กชั่นดังกล่าวยังเน้นย้ำเอกลักษณ์การรื้อสร้างแพตเทิร์นดั้งเดิมให้มีความน่าสนใจมากขึ้น รายละเอียดซิปหน้าพร้อมซิลูเอตที่สามารถเปิดไหล่กว้างทำให้เซนดาย่าสามารถสไตลิ่งชุดให้กลายเป็นชุดเปิดไหล่ที่สร้างสมดุลระหว่างความแมสคิวลีนของจั๊มพ์สูทและความเฟมินีนในการสร้างรูปทรงอันพลิ้วไหว มันเป็นเหมือนการสร้างมิติแฟชั่นที่มีรากฐานจากไอเท็มชิ้นเบสิกดั้งเดิมให้กลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจด้วยรูปทรงและรายละเอียดต่างๆ โดยไม่ต้องสาดสีสันหรือลวดลาย
ด้านทิโมธีก็น่าสนใจไม่แพ้กันแต่เลือกมิติการสไตลิ่งของชุดที่แข็งแกร่งและมีความตรงไปตรงมามากกว่า โดยเขาเลือกสวมจั๊มพ์สูทตามแพตเทิร์นเดิม เผยให้เห็นความเป็นโครงรูปทรงแข็งแรง นอกจากนี้ยังแมตช์กับรองเท้าบู๊ตสีเข้าชุด ให้กลิ่นอายความทะมัดทะแมงเหมาะสำหรับการตะลุยในโลกกว้างตามแบบภาพยนตร์ เมื่อทั้งคู่ยืนข้างกันจะเห็นถึงรายละเอียดของชุดที่มีความเหมือนกันทั้งหมดยกเว้นสีและไซซ์ แตกต่างกันที่รูปแบบการสไตลิ่งที่สื่ออารมณ์และคาแร็กเตอร์ออกมาอย่างชัดเจน หรือจะพูดว่านี่คือชุดคู่ที่แสดงตัวตนของแต่ละคนออกมาอย่างชัดเจนก็ไม่ผิดนัก ด้วยแฟชั่นที่จัดจ้านของทั้งคู่ในงานครั้งนี้ทำให้หลายคนกลับมาพูดถึงแบรนด์จุนเจกันอีกครั้ง การห่างหายจากสารบบแฟชั่นยุคใหม่อาจทำให้สาวกแฟชั่นลืมเลือนความน่าสนใจของจุนเจไปบ้าง แต่ครั้งนี้เชื่อเลยว่าอย่างน้อยจะมีการสืบค้นหาผลงานของแบรนด์ย้อนหลังกลับไป การปรากฏโฉมในลุคคู่ครั้งเดียวอาจชุบชีวิตชื่อจุนเจให้กลับมามีชีวิตชีวาในแวดวงแฟชั่นระดับโลกอีกครั้ง
ภาพ: Teen Vogue
ข้อมูล www.vogue.co.th